ufabet

ค้นพบปัญหาทั่วไปเมื่อวัดประสิทธิภาพโฆษณาดิจิทัลโดยใช้การดู การคลิก การระบุแหล่งที่มา และเมตริกอื่นๆ การโฆษณาออนไลน์ดูเหมือนเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความคิดสร้างสรรค์และข้อมูล นักการตลาดสามารถทดสอบโฆษณาได้หลากหลายสไตล์และรับผลลัพธ์ที่รวดเร็ว

เกือบทุกแง่มุมของการโฆษณาดิจิทัลสามารถวัดผลได้ มันคือ “การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล” เว้นแต่ว่าตัวเลขส่วนใหญ่จะเป็น BS ซึ่งดู

เหมือนว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เมื่อเร็วๆ นี้ฉันได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานมืออาชีพที่ทำงานในพื้นที่โฆษณามาหลายปี เขาค้นพบความคลาดเคลื่อนระหว่างรายงานจากแหล่งต่างๆ รวมถึง Google และติดต่อ Google เพื่อแก้ไขปัญหา พวกเขาบอกเขาว่าหากความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 20%

ก็ไม่คุ้มที่จะพิจารณา นั่นเป็นแถบข้อผิดพลาดที่ค่อนข้างใหญ่ในข้อมูลโฆษณาของคุณ แต่กลับกลายเป็นว่ามีส่วนเล็กๆ น้อยๆ เมื่อเทียบกับสิ่งที่คนอื่นกำลังค้นหา

ตัวเลขที่น่าเศร้าบางอย่าง

สมาคมผู้ลงโฆษณาแห่งชาติ (ANA) ระบุว่าการใช้จ่ายโฆษณาบนแพลตฟอร์มฝั่งดีมานด์เพียง 36% เท่านั้นที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของผู้ลงโฆษณาได้จริง รายงานของ ANA เกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานแบบเป็นโปรแกรมพบว่ามีการใช้เปอร์เซ็นต์ที่สูงไปกับโฆษณาที่ไม่สามารถดูหรือแสดงต่อบอทได้ Bob Hoffman ผู้เขียน “Adscam”

กล่าวว่าตัวเลขยังแย่กว่านั้นมาก เขาประมาณการว่า 3% ของค่าโฆษณาดิจิทัลสอดคล้องกับโฆษณาจริงที่มนุษย์เห็น โปรดทราบว่าตัวเลขจะถูกรายงานในแต่ละขั้นตอนในกระบวนการโฆษณา ทั้งหมดนี้ “ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล” มาก แต่ข้อมูลอาจเป็นขยะ เกิดอะไรขึ้น เราทุกคนรู้คำพูดอันโด่งดังของ John Wanamaker: “เงินครึ่งหนึ่งที่ฉันใช้ไปกับการโฆษณานั้นสูญเปล่า

ปัญหาคือฉันไม่รู้ว่าครึ่งไหน” ในสมัยของ Wanamaker ผู้บริหารโฆษณาสามารถตรวจสอบได้ว่าโฆษณาของเขาอยู่บนป้ายโฆษณา ในนิตยสาร หรือประกาศทางวิทยุจริงๆ เนื่องจากโฆษณาออนไลน์ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละราย คุณจึงไม่สามารถตรวจสอบให้แน่ใจว่าโฆษณาของคุณแสดงได้

ผู้ลงโฆษณา “เฮ้ ฉันไม่เห็นโฆษณาของฉันบนเว็บไซต์ของคุณ” ในส่วนของพนักงานขายโฆษณา “นั่นเป็นเพราะคุณไม่ได้อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย” เป็นไปได้อย่างไรที่ตัวเลขจะแย่อย่างที่ ANA แนะนำ ลองสำรองและถามถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมากในด้านตัวเลข โดยเน้นที่เมตริกหลักบางรายการ

การดูและการแสดงผล ผู้ลงโฆษณาต้องการให้โฆษณาของตนปรากฏต่อผู้ชมที่ถูกต้องในบริบทที่ถูกต้อง องค์ประกอบแต่ละอย่างอาจผิดพลาดได้จากหลายสาเหตุ นี่คือบางส่วนของผู้กระทำผิดอันดับต้น ๆ การแสดงผลที่ไม่ได้แสดง สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าของคุณไปที่หน้าที่ถูกต้อง และโฆษณาของคุณ “แสดง” บนหน้านั้น

แต่อยู่ในส่วนที่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าไม่เคยเห็น แม้ว่าจะมีความพยายามที่จะต่อสู้กับสิ่งนี้ แต่โฆษณายังคงถูกนับว่า “ดูแล้ว”

เมื่อโฆษณาไม่เคยแสดงต่อผู้เข้าชมเลย โฆษณาอยู่ผิดไซต์ คุณต้องการให้โฆษณาของคุณแสดงบนไซต์สื่อหลัก แต่จริงๆ แล้วโฆษณานั้นแสดงบนไซต์ Affiliate ที่ไม่ดึงดูดตลาดหลักของคุณ อาจเกิดจากข้อผิดพลาดของมนุษย์ในการตั้งค่าโฆษณาหรือความสับสนที่ด้านหลัง แต่ก็เกิดขึ้นได้ โฆษณาแสดงแล้ว แต่ไม่ได้อยู่ในบริบทที่ถูกต้องและอาจไม่ใช่สำหรับผู้ชมที่ถูกต้อง

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ufabet

ห้องสะท้อนเสียงตัวเอง เรื่องราวที่จะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้นั้น  เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องแอพพลิเคชั่นยอดฮิต   ที่เราเรียกมันว่า Facebook นั้นเอง Facebook นั้นมีความน่าสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว  อย่างไรก็ตามในวันนี้สิ่งที่เรากำลังจะพูดถึง เป็นเรื่องราว 

ที่เกี่ยวข้องกับด้านมืดของ Facebook ที่ใครหลายคนต่างก็เคยประสบพบเจอมาก่อน แต่ก็ไม่เคยรู้เลยว่าทำไม Facebook สามารถทำแบบนี้ได้ ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักและไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้กัน 

ปัจจุบันนี้โลกของเราเต็มไปด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆมากมายที่มีความทันสมัย ซึ่งขณะที่เรากำลังจะพูดถึงในวันนี้นั้น เป็น Application ยอดฮิตที่ทุกคนต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดี มันเป็น Application ที่เรียกว่า  Facebook นั่นเอง  สำหรับสิ่งที่เราจะถึง Facebook ในวันนี้เราจะมาพูดถึง ด้านมืดของ Facebook กัน

มีความเกี่ยวกับเรื่องของ Facebook  ที่มันมีการเรียนรู้และจดจำพฤติกรรมของเราตลอดเวลาทำให้มันพยายามแสดงความคิดเห็น ในสิ่งที่เราชอบ ในสิ่งที่เราสนใจขึ้นมา ให้เราเห็นบนหน้าฟีตอยู่เสมอซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นไปเพื่อ ให้เราเล่น Facebook ให้ได้นานมากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้  แต่ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Echo Chamber คือ เสียงสะท้อนของตัวเองขึ้นมา มันคือปรากฏการณ์ที่เราจะได้เห็นหรือได้เตรียมข้อมูลเพียงด้านเดียว

โดยแทบไม่ได้รับรู้ข้อมูลจากด้านอื่นเลย  ยกตัวอย่าง เช่นสมมุติว่าเราชอบพวกการเมืองฝ่ายขวามากๆ เรามักจะกดไลค์ กดแชร์อยู่เสมอ ระบบก็จะแสดงจาก Content ที่เกี่ยวข้องกับ  ขั้วการเมืองฝ่ายขวาเพียงอย่างเดียว โดยที่เราจะแทบไม่ได้เห็นผลได้ เป็นขั้วการเมืองฝ่ายซ้ายเลย

โดยปรากฏการณ์ที่ว่านี้  ก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องของการเมืองเท่านั้น  แต่ยังรวมถึงเรื่องอื่นในชีวิตของเราด้วย  ซึ่งมองคนอื่นแล้วก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไร  นักวิจัยระบุว่าในระยะยาวนั้น  มันสามารถสร้างความ  เกลียดชังให้เกิดขึ้นได้ ในสังคมและอาจนำไปสู่แนวคิดและความเชื่อผิดติดตัวไป จนอยากจะแก้ไขได้ นอกจากนี้แล้ว 

Facebook ก็ยังมีด้านมืดอีกมากมายที่ยังไม่ได้มีการเปิดเผยออกมา  แน่นอนว่าถ้าคุณสนใจอยากจะทำความรู้จักเรื่องราวเหล่านี้เพิ่มเติม  ก็สามารถศึกษาค้นหาข้อมูลได้ผ่านอินเตอร์เน็ต ถ้าหากว่าคุณลองไปค้นหาข้อมูลเหล่านี้ดูแล้ว มันก็มีให้เราได้ศึกษาและทำความเข้าใจ

หรือว่าเรียนรู้เกี่ยวกับมัน  Facebook  นั้นก็ไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลต่างๆเหล่านี้ ออกมาให้เราได้ศึกษามากมายเท่าไหร่ เพราะว่ามัน    ก็อาจจะเป็นความลับของทางบริษัท และแน่นอนว่าหากคุณอยากรู้ก็แค่ลองค้นหาดูถ้าหากว่ามันยังไม่พบเจอก็ลองเปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่ๆในการศึกษาค้นหาดูได้ 

สนับสนุนโดย.  ufabet

เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสิ่งไม่มีชีวิต  การทำซิทแพ็ค  ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจด้วยเช่นเดียวกัน ยิ่งเป็นในยุคปัจจุบันนี้หลายสิ่งหลายอย่างนั้น  เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากว่า  เราได้มีการนำเอาเทคโนโลยี  เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในยุคปัจจุบันคงไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่า  การที่มนุษย์อย่างเรานั้นใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย

  ก็คงจะหนีไม่พ้นสิ่งประดิษฐ์อัจฉริยะต่างๆรอบตัวของเรา ที่เราได้มีการนำมาใช้ และแน่นอนว่าสิ่งประดิษฐ์ต่างๆเหล่านี้ มันก็จะได้รับการพัฒนาต่อยอดเพิ่มไปมากยิ่งขึ้น  ในอนาคตซึ่งสิ่งที่เราจะพูดถึงในวันนี้ ด้วยน่าสนใจมากน้อยแค่ไหนทำความรู้จักพร้อมกัน

มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆมากมาย ที่เกิดขึ้นมาบนโลกของเราและแน่นอนว่าทุกสิ่งทุกอย่างเรานั้นมันเป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก และเรื่องราวที่เรากำลังพูดถึง เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสิ่งประดิษฐ์อัจฉริยะ ที่ทำให้คุณเหมือนอยู่ในโลกแห่งอนาคต และถึงแม้ว่าจะมีชีวิตต่างๆนี้มันจะไม่ได้เป็นเทคโนโลยีหรือนวัตกรรม ที่มีความทันสมัย

และแน่นอนว่า จะหาคนที่มีมันมาครอบครองไว้มันก็คงจะเป็นอะไรที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว  สิ่งดังกล่าวนี้คืออะไรและทำความรู้จักมันเลยดีกว่า กับสิ่งประดิษฐ์ที่มีชื่อว่า    ซิทแพ็ค  เคยไหมที่ยืนรอรถเมล์ขึ้นมาเป็นชั่วโมงแล้ว  ยังไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อยหรือเมื่อย และก็อารมณ์เสียจริงๆ

แต่ทว่าตอนนี้ สบายแล้วเพราะเรามีซิทแพ็ค เก้าอี้พับแบบพกพาไซส์มินิ เท่ากับกระป๋องน้ำอัดลม   เพียงแค่เท่านั้น  คุณก็สามารถหย่อนก้นลงไปนั่งพักผ่อนอย่างสบายอารมณ์แล้ว และไม่ต้องกลัวว่าคนน้ำหนักเยอะ จนหงายหลังไปนะ  ทางผู้ผลิตเขาออกมาบอกแล้วว่ามันรองรับน้ำหนักได้มากถึง 136 กิโลกรัมที่นี้จะรอนานแค่ไหน ก็ไม่เมื่อยอีกต่อไปแล้ว

นอกจากเรื่องราวที่เราได้พูดไปนั้น  มันก็ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งประดิษฐ์ ที่ใช้ได้เลยว่ามันเป็นสิ่งประดิษฐ์แห่งอนาคต ที่เราทุกคนต่างก็อยากมีไว้ในครอบครองอย่างแน่นอน  นอกจากสิ่งที่เราได้พูดไปแล้ว เราเองก็อยากให้ทุกคนได้ลองศึกษาเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสิ่งประดิษฐ์อัจฉริยะ ที่เกิดขึ้นมาบนโลกของเรานี้เพิ่มเติม

เพราะว่ามันมีอยู่มากมายหลายสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้ได้ และเมื่อคุณได้ลองศึกษาเกี่ยวกับมันอยู่  เพราะว่ามันจะทำให้คุณได้เรียนรู้และเปิดโลกกว้างรับสิ่งใหม่ๆเข้ามา ก็ไม่ได้ว่าเมื่อคุณได้ลองศึกษาเรื่องราวต่างๆเหล่านี้เพิ่มเติม แล้วเราก็อาจจะเป็น ufabet   นักประดิษฐ์ ที่ประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์อัจฉริยะขึ้นมาให้กับโลกของเรา คนต่อไปก็เป็นไปได้ ใครจะไปรู้กันว่าสิ่งทุกอย่างนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ หากเราลองศึกษาข้อมูลเหล่านั้นดู

เพลงประกอบโฆษณา คุณเคยได้ยินคำว่าจิตวิทยา และกลยุทธ์ทางการตลาดหรือเปล่า  แน่นอนว่าทั้งสองสิ่งนี้นั้นเมื่อมารวมกันมันเป็นสิ่งที่น่ากลัวเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ได้มีการนำจิตวิทยามาใช้กับกลยุทธ์ทางการตลาดเราอาจจะกลายเป็นเหยื่อของทาสการตลาดก็เป็นไปได้ 

ถ้าหากว่าเราไม่รู้จักศึกษาสิ่งต่างๆเอาไว้เกี่ยวกับกลยุทธ์ทางการตลาด  ที่ทางผู้จำหน่ายสินค้าที่มีการนำมาใช้กับเรา ซึ่งในวันนี้สิ่งที่เราจะพูดถึงก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าคุณสนใจไปทำความรู้จักกันพร้อมกันกับเรื่องราว ของเพลงประกอบโฆษณานั้นเอง 

มีเรื่องราวหลายสิ่งหลายอย่างต่างๆมากมาย  ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมากแน่นอนว่าสิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไปนี้นั้นมันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาบนโลก 

แล้วก็เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวของเราเรื่องราวใกล้ตัว    จะเป็นเรื่องไกลตัวก็เป็นไปได้  ถ้าหากว่าเราไม่รู้จักศึกษามันเอาไว้  แน่นอนว่าในวันนี้เป็นเรื่องราวของหลักจิตวิทยาและกลยุทธ์ทางการตลาด  ที่ได้มีการนำมาใช้ที่ใครหลายๆคนอาจยังไม่เคยได้รับรู้มาก่อน  และถ้าหากว่าเราไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าวนี้  เราก็จะกลายเป็นเหยื่อทางการตลาดก็เป็นไปได้ 

ซึ่งสิ่งที่เราจะพูดถึงมันเป็นเรื่องราวของเพลงประกอบโฆษณานั้นเอง Advertising Song  หรือเพลงประกอบโฆษณา         ส่วนใหญ่แล้วจะสร้างขึ้นมาให้ฟังง่าย  ไม่ซับซ้อนมีเนื้อเพลงและทำนองที่ติดหู  ซึ่งก็จะมีการสอดแทรกข้อมูลทางการตลาดเข้าไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นชื่อแบรนด์ ชื่อรุ่นสินค้า และราคาของสินค้าเป็นต้น

ซึ่งเป้าหมายของการสร้างเพลง ที่ว่านี้คือการทำให้มันติดอยู่ในหัวผู้คน  โดยการเล่นเพลงนี้ซ้ำๆ ตามสื่อต่างๆจนทำให้ผู้คนจำมันได้  หรืออาจถึงขั้นเอาเพลงนี้ออกจากหัวไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างเช่น เพลงแลคตาซอย 5 บาทที่มีคนไทยจำนวนมาก สามารถจดจำและร้องตามได้

ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้น  นอกจากจะทำให้ผู้คนจดจำข้อมูลต่างๆได้แล้ว  มันยังทำให้ผู้คนเกิดความคุ้นเคยและมีแนวโน้ม  ที่จะซื้อสินค้าพวกนั้นมากขึ้นนั่นเองนอกจากเพลงประกอบโฆษณา ที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้น มันก็ยังมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่ได้มีการผสมผสานระหว่างจิตวิทยา เข้าไปด้วยทำให้มันมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า  ของลูกค้าเพิ่มมากยิ่งขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลต่อเลข 9 แน่นอนว่า ถ้าสินค้าตัวไหนมีเลข 9 ลงท้ายแล้ว  มันก็จะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของเราเพิ่มไปอีกขั้น แน่นอนว่ายิ่งเป็นในยุคปัจจุบันโซเชียล ก็ยิงเข้ามามีอิทธิพลกับเรามาก ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาอะไรก็ตามเราก็มักจะหลงเชื่อง่ายๆไปหมด 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.    ufabet